วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

กลอนอกหัก

กลอนอกหัก


บางที . . . หัวใจก็ยอมเจ็บ เพียงแลกกับ ความสุขเล็กๆ . . . มาเก็บไว้
บางที . . . เหนื่อยจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่ก็ยังพอใจ . . . กับสิ่งที่เป็น
บางที . . . แม้จะลำบากยากเข็ญ แต่ก็ยอมเป็น . . . เบี้ยล่างหัวใจเธอ
อาการแบบนี้ใครไม่เป็น . . . ไม่รู้สึกจริงไหม

มันมีเหตุผลหลายอย่าง ที่เราจำเป็นต้องหักห้ามใจไม่ให้รักใครสักคน เหตุผลของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะรู้ตัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
บางคนอาจต้องห้ามใจ เพราะกลัวใจตัวเองจะถลำลึกและเจ็บปวดมากไปกว่านี้ บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะมีคนที่รักคนที่เรารักมาก่อน และคนคนนั้นก็คือคนที่เรารู้จักและเราก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคนคนนั้น บางคนอาจต้องห้ามใจเพราะเขาอาจไม่ได้คิดและรู้สึกเหมือนกับเรา
ทุกข์ทรมานแค่ไหนที่เรารักเขา แต่ต้องพยายามฝืนใจถอยห่างออกมา เราต้องเงียบ ต้องเฉยชา ต้องเลี่ยง ต้องหลบหน้า ต้องทำหน้าตาบึ้งตึงใส่ เพื่อจะย้ำเตือนให้ตัวเองไม่ต้องรู้สึกอะไรใดๆ กับเขามันเจ็บแทบบ้าที่ต้องทำร้ายตัวเองด้วยวิธีการนี้ แม้จะดูเป็นวิธีการโง่ๆ แต่หากจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องตัวเอง เพื่อไม่ให้ใจของตัวเองต้องบาดเจ็บ


การถอยห่างจะช่วยสอนให้เราได้เรียนรู้ว่า ยิ่งเรายึดติด อยากได้ อยากครอบครอง ยิ่งทำให้เราอ่อนแอและแพ้ภัยตัวเองหากไม่ได้เขามาเป็นคนรักของเราขอเพียงแค่เขาได้เข้าใจในเหตุผลข้อนี้ อย่าได้เข้าใจว่าเราโกรธหรือเกลียดเขาถึงต้องแสดงท่าทีเฉยชาใส่ คนเจ็บปวดคนนี้ก็จะได้มีแรงพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง พร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เดินบนทางที่เหมาะที่ควร แม้ว่าการเดินทางจะมีอุปสรรคมากบ้างน้อยบ้างก็ตามที

หลังจากที่เราเข้มแข็งได้แล้ว ห้ามใจไม่ได้รักเขาได้แล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมคิดและรู้สึกกับเขาได้อย่างคนธรรมดาสามัญที่รู้สึกดีต่อกันไม่ต้องรู้สึกแบบพิเศษที่แอบแฝงด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลาและสามารถอยู่บนโลกใบเดียวกับเขาได้อย่างจริงใจที่สุด เป็นธรรมชาติมากที่สุดโดยไม่ต้องกดดันอะไร
หวังว่าเขาคงเข้าใจในเหตุผลที่เรากระทำลงไป เจ็บนะไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่สักพักก็คงจะหายดี แล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
อย่าหลอกตัวเองต่อไป ว่า … น้ำตาจะล้างดวงตาของเธอ ให้มองเห็นชัดเจนขึ้นเพราะในดวงตาที่พร่ามัว ไปด้วยน้ำตาอย่างนั้น เธอจะมองเห็นอะไรได้ … นอกจากความทรงจำหม่นมัว และความฝันอันมืดมิด …
อย่ากล่าวโทษว่า … ตัวเองไม่ดี ในความรัก ไม่มีใคร ดี หรือ ไม่ดี มีแค่ "รัก" หรือ "ไม่รัก" ต่อให้เธอทำดีแค่ไหน ถ้าลองได้หมดรักแล้ว … ก็ไม่มีทางจะดีไปได้
คนบางคน.. ได้รักได้รู้จักกับใครสักคน แต่แล้วก็มีอันทำให้คนสองคนเป็นได้แค่เพียงเส้นขนาน ที่ไม่อาจบรรจบลงเอยกันได้ ด้วยเพราะใครสักคนอาจมีพันธะกับคนอีกคนก่อนอยู่แล้ว โดยไม่เคยบอกกล่าว...
คนบางคน.. เลือกที่จะเป็นเพียงเส้นขนานกับใครสักคน แม้ต้องแบกรับความรักที่ท่วมท้นในใจอย่างเจ็บปวด เงียบๆเพียงลำพัง แต่ด้วยตระหนักว่า การเป็นเพียงเส้นขนานกันในวันนี้ แม้จะทุกข์เพราะรักมักอยากอยู่ชิดใกล้กับคนที่รัก
คนบางคน.. ยึดมั่นในความรักแต่หากยึดมั่นในความถูกต้องเช่นเดียวกัน บนเส้นขนานที่อาจดูอ้างว้าง เจ็บปวดและว้าเหว่ สับสนและปวดร้าวในใจ แต่บนเส้นขนานที่เดียวดายเส้นนี้
คนบางคน.. เรียนรู้ เข้าใจในความรักมากขึ้นว่า ความรักหากได้มาด้วยการรดน้ำพรวนดินด้วยความผิดหรือการแย่งชิง กิ่งก้านที่แตกดอกออกผล ล้วนแล้วแต่ คือร่องรอยของความเจ็บปวดและความทุกข์
คนบางคน.. ยังคงยืนหยัด กับวันเวลาบนเส้นขนานสายนี้ที่เลือกแล้ว ด้วยเพราะความรักและใครสักคนยังคงอยู่ในใจตลอดเวลา อยู่กับคืนวันที่ผ่านไปและกับความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต บนเส้นขนานที่เดียวดายเส้นนี้ วันหนึ่ง อาจมีใครสักคนร่วมทาง อาจเป็นใครคนเดิม อาจไม่ใช่หรืออาจไม่มี
คนบางคน.. อกกับตัวเองอย่างมีเกียรติและภาคภูมิใจว่า "เราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว" เพียงแค่นี้ ความสุขบนเส้นขนานก็ดูจะไม้ร้างลาและเดียวดายอย่างแน่นอน อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆที่จะทำ แต่ไม่ง่ายนักกับการลงมือทำ แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำ ขอเพียงไม่ตามใจตัวเองอย่างเพลิดเพลิน
คนบางคน.. ก็รู้ว่าตัวเองทำได้ ในชีวิตของคนเรา เราอาจเคยเป็นทั้งผู้เลือกและผู้ถูกเลือก จะช้าหรือเร็ว จะมากหรือน้อย สักวันเราก็ต้องเลือก หากมีโอกาสได้เลือก จงเลือกให้รอบคอบและถูกต้องที่สุด อาจไม่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่อย่างน้อยเราก็ได้เลือกอย่างถูกต้องที่สุดแล้ว

โดเรม่อน

ประวัติโดเรม่อน

ตัวละครโดราเอมอนนั้น ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เนื่องจากนักวาดการ์ตูนทั้ง 2 ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ได้ลงโฆษณาการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขาทั้งสองไว้ว่าจะมีตัวเอกที่ออกมาจากลิ้นชัก ในนิตยสารการ์ตูนฉบับต้อนรับปีใหม่ แต่ในความจริงแล้วทั้งสองยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้แม้แต่น้อยเลย เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งต้นฉบับก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก
ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ หนึ่งในนักวาดการ์ตูน ได้เผอิญเห็นแมวจรจัดที่มักแอบเข้ามาเล่นที่บ้านของตนเองเป็นประจำ เขามักจะชอบจับแมวตัวนี้มาหาหมัด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 4.00 น. ก็ยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องใหม่ ทำให้ฮิโรชิโมโหตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดเลยเถิดไปว่าโลกนี้น่าจะมีไทม์แมชชีน เพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต หลังจากนั้นฮิโรชิได้เผลอหลับไปด้วยความอ่อนล้า เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้เขาตกใจว่าตนเองเผลอหลับไป จึงรีบวิ่งลงจากบันไดบ้านไปสะดุดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นของลูกสาวที่ตกอยู่บนพื้น
เหตุนี้เองทำให้ฮิโรชิเกิดไอเดียขึ้นโดยนำหน้าแมวจรจัดมาผสมกับตุ๊กตาญี่ปุ่น สร้างออกมาเป็นตัวละครหุ่นยนต์แมวจากอนาคตคอยช่วยเหลือเด็กชายที่แสนจะไม่ได้เรื่อง และตั้งชื่อว่า โดราเอมอน เป็นคำผสมระหว่าง "โดราเนโกะ" กับ "เอมอน" ในภาษาญี่ปุ่น โดราเนโกะนั้นแปลว่าแมวหลงทาง ส่วนคำว่า "เอมอน" เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนของประเทศญี่ปุ่น
ต้นกำเนิด
โดราเอมอนถูกผลิตขึ้นในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้โดราเอมอนมีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ (และได้พบกับเพื่อนๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอมอน ที่นั่น) จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน "โรบ็อต ออดิชัน" ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โดราเอมอนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานะของหุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก[3] แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน
แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอมอนไม่มีหู เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอมอนหยิบผิดกินยาโศกเศร้าแทน ทำให้โศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียดและกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก
นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ
ข้อมูลจำเพาะของโดราเอมอน
เป็นความตั้งใจของผู้วาดการ์ตูนที่ใช้ตัวเลข 3-9-12 กับตัวละครนี้ โดราเอมอนจึงมีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเลขชุดนี้
มีน้ำหนัก 129.3 กิโลกรัม
ความสูง 129.3 เซนติเมตร (แต่เวลานั่ง จะเหลือ 100 เซนติเมตร)
กระโดดได้สูง 129.3 เซนติเมตร (เวลาเจอหนู)
มีพละกำลัง 129.3 แรงม้า
วัดรอบหัว รอบอก รอบเอวได้ 129.3 เซนติเมตร
วิ่งปกติในระยะ 50 เมตรใช้เวลา 15 วินาที แต่ถ้าเจอหนูจะวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วันที่ผลิตคือ ปีที่ 12 เดือน 9 วันที่ 3 (เรียงแบบปฏิทินญี่ปุ่น)
ส่วนประกอบในร่างกาย
เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์แมวที่ผลิตขึ้นในอนาคตคือคริสตศตวรรษที่ 22 ตามจินตนาการของผู้แต่ง ส่วนประกอบในร่างกายของโดราเอมอนจึงเต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
หัว
โดราเอมอนเป็นหุ่นยนต์แมวที่มีการติดตั้งชิปคอมพิวเตอร์ในหัว ทำให้มีความรู้สึกนึกคิด สามารถพูดภาษามนุษย์ (ภาษาญี่ปุ่น) และพูดภาษาแมวได้ แต่ภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่น และภาษาสัตว์อื่นๆ จะฟังไม่รู้เรื่อง จึงต้องพึ่ง "วุ้นแปลภาษา"[4] กับ "หูฟังภาษาสัตว์" แทน[5] อีกทั้งยังสมองไม่ไวเท่าที่ควร เวลาคำนวณเลขยากๆ จึงต้องใช้กระดาษทด[6] หรือเครื่องคิดเลขช่วย[7]
นอกจากนี้ หัวของโดราเอมอนยังแข็งราวกับหิน ซึ่งเขาถือว่าเป็นอาวุธลับขั้นสุดท้ายของตัวเอง โดยสามารถเอาหัวโขกจนประตูพังได้ และวิ่งกระโจนเอาหัวพุ่งใส่แทงค์แก๊ส จนแทงค์เป็นรูเสียหาย (แต่ตนเองก็หมดสติไปเลยเช่นกัน)[8]
ใบหน้า
ใบหน้าของโดราเอมอน มีลักษณะเป็นทรงกลม จมูกกลมสีแดง และมีหนวด 6 เส้น ดูคล้ายกับแมว แต่คนอื่นๆ มักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นทานูกิ หรือแรคคูน ซึ่งโดราเอมอนจะไม่พอใจทุกครั้งที่ถูกเรียกแบบนั้น[9]
ตา
ตาแสงอินฟราเรด สามารถมองเห็นได้แม้แต่ในที่มืด
จมูก
มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีแดง เหมือนกับปลายหาง รับรู้กลิ่นได้ไวกว่ามนุษย์ 20 เท่า แต่ปัจจุบันชำรุด จึงสามารถดมกลิ่นได้เท่าจมูกคนเท่านั้น
หนวด
มี 6 เส้น เป็นหนวดเรดาร์ สามารถจับวัตถุระยะไกลได้ แต่อยู่ระหว่างรอซ่อมแซม
ร่างกาย
ผิวหนังเป็นโลหะผสมพิเศษต้านแรงดึงดูด ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถจับเกาะได้ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูง แม้อยู่ในอวกาศหรือใต้ทะเลลึกก็ไม่เป็นปัญหา[10] โดนของเหลวคล้ายกรดสาดใส่ก็ไม่ละลาย[11] แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างเช่นกัน คือ แพ้อากาศร้อน[10] และแพ้อากาศหนาว จนถึงขั้นเป็นหวัดได้[12] หากโดนไฟฟ้าช็อตก็จะเสียหาย[8][13]
มือ
รูปร่างกลมสีขาวไม่มีนิ้วมือ จึงไม่สามารถเล่นพันด้าย[14] และเป่ายิ้งฉุบได้ เล่นบาร์โหนก็ไม่ถนัด[15] แต่สามารถดูดจับสิ่งของได้ทุกอย่าง[16]
ปาก
ปากขนาดกว้าง สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยจะเปลี่ยนเป็นพลังงานปรมาณู ภายในปากจะมีฟันที่เรียกว่า "ฟู้ดคัตเตอร์" ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะเวลาที่โดราเอมอนโกรธจนต้องยิงฟันเท่านั้น แต่ในตอนพิเศษ "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006" โดราเอมอนกลับถูกวาดให้มองเห็นซี่ฟันอย่างชัดเจน
กระพรวน
ไว้ห้อยคอ มีสีเหลือง ส่วนสายคาดมีสีแดง เมื่อสั่นกระพรวนจะสามารถเรียกแมวที่อยู่ใกล้เคียงมาชุมนุมกันได้ โดยจะปล่อยคลื่นเสียงพิเศษ แต่ตอนนี้ใช้งานไม่ได้[9] ปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่เพื่อใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กแทน[9]
กระเป๋าหน้าท้อง
เป็นกระเป๋าสี่มิติ ไว้สำหรับเก็บของวิเศษ พื้นที่เก็บของไม่มีจำกัด สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ โดยระหว่างนั้นจะนำกระเป๋าสี่มิติใบสำรอง หรือที่มักเรียกว่า "กระเป๋าสำรอง" มาใช้แทน ซึ่งกระเป๋าทั้งสองจะมีมิติเชื่อมต่อกัน ของที่เอาใส่ในกระเป๋าใบหนึ่ง จะสามารถนำออกมาจากกระเป๋าอีกใบหนึ่งได้[17]
เท้า
ลักษณะแบนเรียบ สีขาว มีพลังต้านแรงดึงดูด ส่งผลให้เท้าอยู่ลอยจากพื้น 3 มิลลิเมตร เลยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าเพราะไม่มีฝุ่นผงติดเท้า เดิมทีเท้าของโดราเอมอนจะเป็นแบบที่สามารถเดินได้โดยไม่มีเสียงเหมือนกับแมวย่อง แต่ปัจจุบันชำรุดไปแล้ว ทำให้เวลาเดินจึงมีเสียงจากแรงเสียดสีกับอากาศ
สำหรับเวลาขี่จักรยานต้องใช้ปากจับแฮนด์ และใช้มือถีบที่ปั่นจักรยานแทน เนื่องจากขาหยั่งไม่ถึง[18]
หาง
เป็นสวิตช์ปิด-เปิด ถ้าถูกดึง ทุกอย่างจะหยุดทำงาน โดราเอมอนสามารถดึงหางเพื่อปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ไม่สามารถดึงเพื่อเปิดเองได้
สิ่งที่ชอบ-เกลียด
สิ่งที่ชอบที่สุดคือขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยสามารถกินโดรายากิขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมด[19] และเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้ว[20] และเพียงแค่ไม่ได้กินโดรายากิติดต่อกัน 3 วัน ก็แทบจะทนมีชีวิตอยู่ไม่ได้[21] สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอมอนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว "โนราเมียโกะ" มันจึงกลายเป็นของโปรดของเขามาตั้งแต่บัดนั้น[3] เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่ามีร้านค้าร้านไหนที่ขายโดรายากิลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี้เอง จึงทำให้โดราเอมอนให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก จนถึงกับเคยมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขายขนมมาแล้ว หลังจากที่ทางร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไป[22]
นอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอมอนชอบก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอมอนได้กิน ก็บอกว่า อร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้วยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว[23]
ส่วนสิ่งที่โดราเอมอนเกลียดและกลัวที่สุดคือ หนูเพราะเคยโดนหนูกัดหูจนหูแหว่งไปทั้ง 2 ข้างตอนหลับ นอกจากนั้นยังกลัวแฮมสเตอร์ด้วย เพราะโดราเอมอนถือว่าเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู[24]
ชื่อเรียกในภาษาต่างๆ
โดราเอมอนมีการตีพิมพ์ไปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บางครั้งอาจจะมีมีการเรียกโดราเอมอนต่างกันในแต่ละภาษา
ภาษาจีนกลาง - 小叮当 (Xiǎo Dīng Dāng, เสี่ยวติงตัง ) หรือ 机械猫 (Jīxièmāo) หรือ 机器猫 (Jīqìmāo)
ภาษาจีนกวางตุ้ง ในประเทศฮ่องกง - 多啦A夢 (ตั๊วะหลาเอม่ง) แต่ก็นิยมเรียกว่า 叮噹 (Ding Dong)
ภาษาเวียดนาม - Đôrêmon
ภาษาจีนกลาง ในประเทศไต้หวัน - 哆啦A夢 แต่ก็นิยมเรียกว่า 小叮噹
ภาษาตากาล็อก - Damulag
ภาษาเกาหลี - ฉบับไพเรทใช้ชื่อว่า 동짜몽 (toŋ't∫amoŋ) ส่วนฉบับลิขสิทธิ์ใช้ชื่อว่า 동짜몽 도라에몽 (toraemoŋ)
ภาษามาเลย์- Doraemon แต่ออกเสียงว่า โดเรมอน (do.re.mon)

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

สุขสันต์วันปีใหม่

(Happy new year)
One of my favorite gifts is hearing from you. Greetings of the season to you and yours.
ของขวัญลํ้าค่าคือการทราบข่าวคราวจากคุณเทศกาลแห่งอวยพรนี้จงเป็นของคุณและครอบครัว

May this year bring inspiration and happiness to you and your family.
Looks like a bright new year ahead!
Wishing you peace and joy in the New Year
The beginning is always today! Happy New Year.
A new year is a reminder to celebrate all the things that are good in your world. Happy New Year.
Wishing you a very Happy New Year.
Time flies may you catch it and enjoy many moments in the year ahead Happy New Year.
Wishing you good times, good health, good cheer, and a very Happy New Year !
Wishing you peace, love and fun in the new year.

สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ปราศจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งหลายทั้งปวง
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้...............และครอบครัว พบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไปเทอญ
วันนี้วันดีวันปีใหม่ ขอเทพไท้อวยชัยให้สมหวัง มีความสุขถ้วนหน้าทุกคืนวัน แม้ยามฝันยังสุขทุกเวลา
ขอให้ปีใหม่ คิดดี ทำดี และพบเจอแต่สิ่งดีๆ ตลอดปี และตลอดไป ขออวยชัยให้มีสุขสมหวัง มีพลังในการต่อสู้ ... แฮปปี้นิวเยียร์
ปีใหม่ วันใหม่ เริ่มชีวิตใหม่ สุข สนุกสดใส สุขสำราญ เบิกบานใจ สวัสดีปีใหม่จ้า